หมวดหมู่: ข่าวสังคม

ถกกันสนั่นโซเชียล เมื่อมีคนโพสต์เนื้อย่าง 90 บาทได้แต่ไขมัน

         สำหรับเรื่องของราคาอาหารกับปริมาณและคุณภาพอาหารที่ได้รับจากร้านค้าในช่วงนี้นับได้ว่าเป็นเรื่องที่มีการเอาออกนำมาถกเถียงกันอยู่บ่อยครั้ง อย่างล่าสุดได้มีหญิงสาวคนหนึ่งได้มีการโพสต์ข้อความผ่านใน Social Media ของตนเองเกี่ยวกับราคาอาหารที่เธอต้องเสียไปจำนวนถึง 90 บาทซึ่งเธอนั้นได้สั่งเป็นเนื้อย่างกลับมาแต่เธอกลับบอกว่าอาหารที่เธอได้รับกลับมานั้นแทบไม่มีเนื้อเลยซึ่งเมื่อเธอเทชิ้นเนื้อลงไปในจานปรากฏว่าเธอได้รับเนื้อมาแค่ชิ้นเดียวนอกนั้นเป็นไขมันของเนื้อทั้งหมดทำให้เธอรู้สึกว่าเงิน 90 บาทที่เธอได้สูญเสียไปนั้นไม่คุ้มกับการที่เธอได้สินค้าตอบกลับมาเลย

         หลังจากนั้นเธอจึงได้มีการถ่ายรูปอาหารที่เธอได้รับหลังจากที่จ่ายเงินเรียบร้อยแล้วนำไปโพสต์ใน Social Media พร้อมทั้งระบุว่าร้านอาหารที่เธอสั่งมาชื่อร้านอะไรและเธอต้องการมารีวิวเพื่อให้คนที่สนใจจะไปทานอาหารที่ร้านนี้ได้รับรู้ว่าเมื่อคุณต้องเสียเงินไปเป็นจำนวนมากหากเปรียบเทียบกับสินค้าที่คุณได้รับแล้วมันจะไม่คุ้มกันซึ่งการรีวิวของเธอนั้นเป็นการรีวิวที่บ่งบอกให้เห็นว่าไม่ควรไปกินอาหารที่ร้านดังกล่าว

       อย่างไรก็ตามเมื่อมีการใช้ข้อความนี้ออกไปปรากฏว่ามีหลายคนออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร้านอาหารดังกล่าวซึ่งไม่มีการพูดถึงหญิงสาวที่นำชื่อร้านไปโพสต์ว่าราคาอาหารที่ 90 บาทนั้นเป็นราคาที่ไม่สูงมากหากเปรียบเทียบกับราคาเนื้อสดที่ขายในท้องตลาดอยู่ในขณะนี้เพราะว่าขนาดนี้ถ้าหากเดินไปซื้อเนื้อที่ตลาดสดแล้วมาทำกินเองก็จะมีการขายอยู่ที่กิโลละถึง 300 บาทเลยทีเดียวดังนั้นพี่หญิงสาวเสียเงินไป 90 บาทแล้วได้ไขมันของเนื้อมากินก็ไม่ถือว่าราคาแพงมากนักสามารถยอมรับกันได้แต่อย่างไรก็ตามบางคนมองว่าควรจะมีปริมาณเนื้อที่มันมากกว่านี้เนื่องจากเงิน 90 บาทก็เป็นจำนวนเงินที่ค่อนข้างสูงเช่นเดียวกันทำให้เสียงในโลกออนไลน์นั้นต่างถกเถียงกันสนั่นโซเชียลเลยทีเดียว

        อย่างไรก็ตามแม่ค้าที่เป็นเจ้าของร้านที่ยิงสาวได้มีการนำไปโพสต์ได้ออกมาพูดเกี่ยวกับเนื้อที่เธอมีการขายให้กับลูกค้านั้นว่าเธอได้ออกมาขอโทษลูกค้าที่สินค้าของเธอนั้นมีไขมันมากไปหน่อยแต่อย่างไรก็ตามในข้อความที่เธอออกมาโพสต์ขอโทษมันก็ยังมีการจิกกัดลูกค้าว่าถ้าหาก ไม่พอใจก็สามารถไปซื้อร้านอื่นได้ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากที่แม่ค้าออกมาโพสต์ข้อความในลักษณะนี้ก็สร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้ารายอื่นๆรวมถึงหญิงสาวที่โพสรีวิวร้านค้าของเธอมากเหมือนกันเพราะถ้าหากว่าแม่ค้ายอมรับผิดและขอโทษทีๆเรื่องราวก็จะไม่รู้กำลังใหญ่โต เหมือนอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้

 

สนับสนุนโดย  สมัครสมาชิกหวยออนไลน์ ไม่มีขั้นต่ำ

ผู้ปกครองออกมาโพสต์ในกลุ่ม คนรักฟิกเกอร์ว่าได้ทำลายฟิกเกอร์ของลูก

          เมื่อวันที่ 2 กันยายนปีพศ2563 และมีผู้ปกครองท่านหนึ่งได้มีการโพสต์ข้อความลงไปใน Facebook ของกลุ่มคนรัก figure โดยข้อความที่ผู้ปกครองคนดังกล่าวได้มีการโพสต์ลงไปนั้นระบุแสดงถึงความรับผิดชอบกับใครก็ตามที่ได้มีการติดต่อกับลูกชายของเขาแล้วลูกชายของเขาอาจจะทำความเสียหายมาให้หรือเคยสั่งสินค้าอะไรไปแล้วลูกชายของเขายังไม่ได้จ่ายเงินให้ติดต่อมาที่เขา

โดยตรงอีกทั้งยังมีการระบุอีกด้วยว่าลูกชายของเขาตอนนี้มีปัญหาเรื่องของการติด ฟิกเกอร์รถมากทำให้เขารู้สึกไม่พอใจเนื่องจากว่าลูกชายของเขานั้นไม่สนใจเกี่ยวกับเรื่องของการเรียนวันวันเอาแต่สนใจเกี่ยวกับเรื่องของรถฟิกเกอร์ ที่สำคัญขนาดที่จะนอนหลับก็ยังต้องมีการนำเอาฟิกเกอร์รถที่ตัวเองชอบมานอนกอดด้วยและผลการเรียนของลูกชายของเขาก็ตกต่ำเป็นอย่างมาก

ทำให้เขาต้องมีการระงับการเล่นฟิกเกอร์ ของลูกชายของเขาและแน่นอนว่าหากใครก็ตามที่เคยติดต่อลูกชายของเขาผ่านทาง facebook ไม่มีการพ่นสีรถฟิกเกอร์ให้  นับแต่นี้ไปลูกชายของเขาจำได้รับงานเหล่านี้อีกเป็นอันขาดเลยเขายังมีการโพสต์ด้วยว่าเขาได้มีการทำลายฟิกเกอร์ของลูกชายของเขาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งหลังจากที่ข่าวนี้แพร่ออกไปผู้คนในโลกออนไลน์ต่างก็รู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของผู้ปกครองคนนี้เป็นอย่างมากเพราะว่าการที่ลูกชายของเขานั้นรักและเล่นในรถฟิกเกอร์ ถือได้ว่าเป็นความชอบอย่างหนึ่ง  ซึ่งการที่ผู้ปกครองออกมาทำแบบนี้จะทำให้เด็กเสียความรู้สึกและเสียใจส่งผลเสียต่อความรู้สึกของเด็กเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

หลังจากที่มีกระแสการต่อต้านผู้ปกครองคนนี้ออกมาทำให้ในที่สุดผู้ปกครองคนดังกล่าวก็ได้ออกมาโพสต์บอกเล่าให้กับชาวโซเชียลได้ทราบว่าสิ่งที่เขาพูดว่าเขาได้มีการทำลายฟิกเกอร์ ของลูกชายไปนั้นเขาเพียงแค่นำไปเก็บเอาไว้เพียงเท่านั้นเพราะโดยส่วนใหญ่แล้วโมเดลรถที่ลูกชายมีอยู่นับพันคันนั้นก็เป็นเงินที่เขาซื้อให้กับลูกชายเอง

ซึ่งในตอนนี้เขาต้องการให้ลูกชายของเขานั้นมีความรับผิดชอบโดยให้หันมาสนใจเกี่ยวกับเรื่องของการเรียนและถ้าหากลูกชายของเขาสามารถที่จะดูแลในเรื่องเรียนและแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องเรียนออกจากกันได้เขาก็จะพร้อมให้ลูกชายของเขากลับมาเล่นโมเดลรถได้เหมือนเดิมนั่นเอง

ซึ่งตอนนี้สิ่งที่เขาทำก็คือเขาต้องการสอนให้ลูกของเขานั้นมีความรับผิดชอบให้มากกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้เพราะว่าในตอนนี้ที่ลูกของเขาหมกมุ่นกับการเล่นฟิกเกอร์ นั้นมันส่งผลเสียมากมายต่อชีวิตของลูกชายของเขานั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  แทงหวยออนไลน์ยังไง

หนุ่มเมืองเลยถูกลอตเตอรี่เลขท้าย 500 ใบ

หนุ่มเมืองเลยถูกลอตเตอรี่เลขท้าย 500 ใบ แต่พบถูกเอาลอตเตอรี่งวดเก่าปนมาด้วย 15 ใบทำให้สูญเงินกว่า 30,000 บาท 

         เรื่องราวเกี่ยวกับการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลซึ่งเรามักจะได้ข่าวอยู่เป็นประจำในช่วงนี้ว่าหากใครที่ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวนหลายใบอาจจะต้องเจอกับปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการถูกนำสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดเก่ามาปะปนขายรวมกับงวดใหม่ซึ่งถ้าหากเราไม่มีการตรวจสอบดีๆก็จะทำให้เราเสียเงินเป็นจำนวนมากโดยที่เราไม่สามารถนำสลากกินแบ่งรัฐบาลที่หมดอายุแล้วไปขึ้นเงินได้นั่นเองอย่างเรื่องราวล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 เดือนสิงหาคมปีพศ2563 เมื่อมีชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อว่าดีเจวุฒิเขาเป็นคนจังหวัดเลยได้มาแจ้งความที่สถานีตำรวจโดยระบุว่าตัวเขานั้น

ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลประจำงวดของวันที่ 16 เดือนสิงหาคมปีพศ2563 เอาไว้โดยเขาซื้อไปทั้งหมดจำนวน 500 ใบด้วยกันซึ่งตัวเลขที่เขาซื้อนั้นลงท้ายด้วย 88 และเมื่อมีการตรวจสอบผลสลากกินแบ่งรัฐบาลออกมาปรากฏว่าเขาถูกเลขท้ายรางวัล 2 ตัวแต่เมื่อนำใบสลากกินแบ่งรัฐบาลไปขึ้นเงินรางวัลปรากฏว่าใน 500 ใบนั้น

มีจำนวนทั้งสิ้น 15 ใบที่ไม่สามารถขึ้นเงินได้เนื่องจากว่าเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดหน้าอย่าพึ่งผู้ขายนั้นได้เอามาขายรวมอยู่ใน 500 ใบที่เป็นของปัจจุบันด้วยดังนั้นดีเจ Virgin ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นดำเนินคดีกับผู้ขายที่มีการนำของเก่ามาย้อมแมวขายแต่อย่างไรก็ตามการซื้อขายของดีเจวุฒินั้นไม่ได้เป็นการซื้อขายช่องทางเดียวเพราะว่าเขาซื้อขายทั้งจากการสั่งซื้อผ่านทางระบบออนไลน์และสั่งซื้อจากพ่อค้าแม่ค้าที่เดินขายทั่วๆไปและยังไปซื้อจากแผงขายลอตเตอรี่อีกหลายแผง

ดังนั้นจึงไม่สามารถสรุปได้ว่าลอตเตอรี่จำนวน 15 ใบที่เป็นของเหล่านั้นซื้อมาจากช่องทางไหนกันแน่ซึ่งทางด้านดีเจวุฒิได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่าเขาอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบและเขาต้องการที่จะมาเตือนภัยให้กับคนที่ซื้อล็อตเตอรี่ว่าหากมีการสั่งซื้อลอตเตอรี่แล้วต้องมีการตรวจเช็คล็อตเตอรี่ก่อนเดินออกจากร้านให้ดีเพราะไม่เช่นนั้นแล้วก็จะถูกสอดไส้เหมือนกับที่เขาโดนและคนอื่นๆที่โดนมาแล้วหลายคนเช่นเดียวกัน

        อย่างไรก็ตามสำหรับลอตเตอรี่ 15 ใบที่เป็นใบเก่าและทางดีเจวุฒิไม่สามารถที่จะนำไปขึ้นเงินได้นั้นมีการเสียหายรวมทั้งสิ้น 350 บาทด้วยกันเพราะว่าลอตเตอรี่เลขท้าย 2 ตัว 1 ใบก็จะสามารถเบิกเงินได้จำนวน 2,000 บาทซึ่งเป็นที่น่าเสียดายเป็นอย่างมากที่เขานั้นถูกลอตเตอรี่

แต่ว่าไม่สามารถที่จะขึ้นเงินดังกล่าวได้ดังนั้นเรื่องราวทั้งนี้จึงเป็นอุทาหรณ์ให้ใครหลายๆคนที่เป็นคนชอบซื้อลอตเตอรี่เยอะๆให้มีการตรวจทานทุกครั้งก่อนที่จะมีการออกจากร้านและไม่ควรสั่งซื้อลอตเตอรี่ผ่านทางร้านค้าออนไลน์จะเป็นการดีที่สุดเราควรจะไปซื้อเองที่ร้านและนัดตรวจทานลอตเตอรี่ให้เรียบร้อยนั้นเอง

 

สนับสนุนโดย    ซื้อ หวยออนไลน์ รัฐบาล

ชาวเชียงใหม่กลัวหวั่นต้องปิดเมืองเชียงใหม่อีกรอบ

           กำลังเป็นที่พูดถึงกันเป็นอย่างมากกับการที่สาธารณสุขของประเทศมาเลเซียออกมาประกาศว่ามีชายชาวมาเลเซียคนหนึ่งซึ่งพึ่งเดินทางกลับจากประเทศไทยได้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาดังนั้นด้านสาธารณสุขของประเทศไทยเองจึงได้มีการตรวจสอบว่าชายคนดังกล่าวนั้นเดินทางไปที่ไหนบ้างซึ่งพบว่าชายมาเลเซียที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่านั้นได้เดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่

และแน่นอนว่าเขาไม่ได้เดินทางมาเที่ยวที่เชียงใหม่เพียงแค่คนเดียวเท่านั้นยังมีเพื่อนอีกจำนวนหนึ่งที่เดินทางไปกับเขาด้วยและหนึ่งในนั้นมีหญิงชาวไทยคนหนึ่งซึ่งอยู่ในกลุ่มของการท่องเที่ยวในครั้งนั้นด้วยดังนั้นทางด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำจังหวัดเชียงใหม่จึงได้พยายามประกาศตามหาตัวหญิงสาวคนดังกล่าวเพื่อนำมาตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรน่า

ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถพบตัวหญิงสาวคนดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้วเธออายุประมาณ 36 ปีได้เดินทางมาเที่ยวเชียงใหม่พร้อมกับชายชาวมาเลเซียคนดังกล่าวและได้มีการเที่ยวไปทั่วเมืองเชียงใหม่ซึ่งเมื่อเรื่องราวนี้แพร่ออกไปชาวเมืองเชียงใหม่เป็นจำนวนมากต่างก็ออกมาพูดถึงเรื่องราวดังกล่าวเนื่องจากหวาดกลัวว่าจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไปทั่วเมืองเชียงใหม่

โดยที่พวกเขานั้นไม่รู้ตัวและหวั่นเกรงว่าการระบาดในครั้งนี้จะทำให้เมืองเชียงใหม่จำเป็นต้องปิดเมืองใหม่อีกครั้งหนึ่งซึ่งถ้าหากเกิดเหตุการณ์แบบนั้นจริงๆชาวเมืองเชียงใหม่จะต้องได้รับผลกระทบอย่างหนักแน่นอนเพราะเพิ่งจะเปิดเมืองมาได้ไม่นานเศรษฐกิจของเมืองเชียงใหม่ยังไม่ได้ยินดีขึ้นดังนั้นหากจะต้องปิดตัวอีกครั้งหนึ่ง

จะส่งผลให้ชาวเมืองเชียงใหม่นั้นออกจากกันมากขึ้นนั่นเองอย่างไรก็ตามทางด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเมืองเชียงใหม่ได้ออกมาพูดถึงเรื่องราวดังกล่าวว่าขณะนี้ได้มีการนำตัวหญิงสาวคนดังกล่าวนั้นเข้าไปทำการหาตรวจเชื้อเป็นที่เรียบร้อยแล้วผลปรากฏของเชื้อนั้นเป็นลบและแน่นอนว่าทางเจ้าหน้าที่ได้มีการนำตัวหญิงสาวคนดังกล่าวเข้าไปสังเกตอาการจนกว่าจะครบ 14 วันเพื่อให้ชาวเมืองเชียงใหม่มั่นใจได้ว่าหญิงสาวที่ไปเที่ยวเมืองเชียงใหม่นั้นไม่ได้มีการนำเชื้อไวรัสไปแพร่ให้กับชาวเมืองเชียงใหม่อย่างแน่นอน

เนื่องจากว่าหญิงสาวคนดังกล่าวยืนยันว่าตลอดระยะเวลาที่เธอเดินทางไปเที่ยวที่เมืองเชียงใหม่นั้นเธอมีการป้องกันสุขอนามัยเป็นอย่างดีเธอสวมใส่หน้ากากอนามัยและใช้เจลล้างมืออยู่บ่อยครั้งดังนั้นเธอเชื่อมั่นในตัวเองว่าเธอจำไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาจากชายชาวมาเลเซียและไม่มีการแพร่เชื้อให้กับชาวเมืองเชียงใหม่อย่างแน่นอนซึ่งขณะนี้คงต้องรอดูว่าผลปรากฏแล้วหลังจาก 14 วันไปแล้วหญิงสาวคนดังกล่าวจะมีเชื้อไวรัสโคโรน่าหรือไม่

 

สนับสนุนโดย  เว็บหวยออนไลน์อันดับ1

เด็ก 4 ขวบเจองูเหลือมฉกก้น

 มี คุณแม่รายหนึ่ง ได้มีการโพสต์ข้อความลงบน Facebook ส่วนตัวของตนเองเมื่อวันที่ 6 เดือนสิงหาคมปี พ.ศ.2563 ในข้อความใน Facebook มีการระบุเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ลูกสาวของเธอนั้นพบเจอมาโดยเธอเล่าว่าในช่วงเวลากลางดึกนะลูกสาวของเธอท้องเสียเธอจึงได้พาไปห้องน้ำแต่เนื่องจากว่าเป็นห้องน้ำในบ้านพัก

ซึ่งเข้าเป็นประจำอยู่แล้วเธอจึงชะล่าใจไม่เปิดไฟในห้องน้ำด้วยให้ลูกเข้าไปในห้องน้ำหลังจากนั้นตัวเธอนั้นก็นั่งรออยู่บริเวณหน้าห้องน้ำผ่านไปสักพักเมื่อลูกสาวของเธอนั้นทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอกินเข้าไปช่วยลูกสาวของเธอนั้นล้างก้นซึ่งในขณะที่เธอล้างก้นนั้นสายตาของเธอได้เหลือบไปเห็นในโถชักโครกมีก้อนสีดำๆอยู่ในโถชักโครก

โดยเธอเข้าใจว่าน่าจะเป็นอุจจาระของลูกสาวเธอเธอจึงได้กดชักโครกลงแต่ก็ดังกล่าวก็ไม่ลงไปในชักโครกเมื่อเธอกดซ้ำอีกครั้งก็นั้นก็ยังอยู่เธอจึงได้อุ้มลูกสาวขึ้นจากชักโครกเพื่อจะดูให้เห็นชัดๆปรากฏว่าได้มีงูพุ่งเข้ามาหาที่ก้นลูกสาวของเธอและทำการชกเข้าไปที่ก้นด้วยความตกใจเธอจึงกรี๊ดออกมาเสียงดังและเปิดไฟดูจึงพบว่าสิ่งที่พุ่งเข้ามาหาลูกสาวของเธอนั้น

คืองูและสามีของเธอนั้นก็ลงมาช่วยดูว่างูชนิดนั้นเป็นงูอะไรแต่เธอยังเล่าอีกว่าด้วยความตื่นตกใจกลัวสามีของเธอจึงได้ดูดพิษงูออกจากก้นของลูกสาวแล้วพาไปที่โรงพยาบาลซึ่งเธอบอกว่าวิธีการดังกล่าวนั้นเป็นวิธีการปฐมพยาบาลที่ไม่ถูกต้องโดยใน Facebook ของเธอยังบอกเล่าถึงวิธีการปฐมพยาบาลที่ถูกวิธีให้กับคนที่ถูกงูกัดโดยเป็นข้อมูลที่ได้รับมาจากคุณหมอที่โรงพยาบาลซึ่งเธอยังพูดถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วยว่าเป็นความประมาทของเธอเองที่ไม่เปิดไฟให้สว่างจึงทำให้ลูกสาวของเธอนั้นเกือบได้รับอันตรายโชคดีที่ดังกล่าวนั้นเป็นเพียงแค่งูเหลือมเท่านั้น

ซึ่งคุณหมอได้มีการแนะนำวิธีการดูบาดแผลให้เราสังเกตเองได้ด้วยว่าลักษณะของเขี้ยวงูแบบไหนที่จะเป็นงูมีพิษหรืองูแบบไหนที่ไม่มีพิษและใช้ยังบอกอีกด้วยว่าควรจะมีแอลกอฮอล์ล้างแผลเป็นขวดใหญ่ๆติดบ้านไว้เพราะเราสามารถใช้แอลกอฮอล์นั้นล้างแผลแล้วรีบนำตัวคนที่ถูกงูกัดนั้นส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนไม่ว่างูที่กัดนั้น

จะเป็นงูมีพิษหรือไม่มีพิษก็ตามเพราะถึงแม้ว่าจะเป็นงูที่ไม่มีพิษแต่มันก็มีเชื้อโรคซึ่งอาจจะทำให้เกิดการอักเสบและเกิดอันตรายได้ภายหลังนั้นเองและที่สำคัญคุณหมอยังแนะนำเธอมาอีกว่าถ้าเกิดว่างูกัดแล้วไม่ปล่อยก็ให้นำแอลกอฮอล์ลากไปที่ปากของงูเพราะงูมันจะไม่ชอบแอลกอฮอล์นั่นเอง

 

สนับสนุนโดย    ถ่ายทอดสดหวยฮานอยวันนี้

หนีหมายจับ 6 ปีคดีข่มขืนลูกเลี้ยงวัย 11 ปีในที่สุดก็สามารถจับกุมตัวได้

    เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดกรองปราบปรามได้มีการจับกุมชายคนหนึ่งซึ่งหนีหมายจับคดีข่มขืนลูกเลี้ยงของตนเองมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2556 ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นปี พ.ศ.2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสามารถจับกุมชายคนดังกล่าวได้ซึ่งเขาได้หนีการจับกุมมาหลายปีโดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงประมาณ วันที่ 15 เดือนสิงหาคม ปีพ.ศ. 2556

เมื่อคุณครูของเด็กหญิงคนหนึ่งได้นำตัวเด็กหญิงอายุเพียงแค่ 11 ปีเท่านั้นไปแจ้งความที่สถานีตำรวจโดยระบุว่าเด็กหญิงวัย 11 ปีนั้นถูกพ่อเลี้ยงของตนเองข่มขืนซึ่งขณะนี้เด็กหญิงตั้งครรภ์ได้ 4 เดือนแล้วสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเด็กหญิงวัย 11 ปีได้แล้วให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและคุณครูของเธอฟังว่าเธอได้อาศัยอยู่กับแม่แล้วกับพ่อเลี้ยง

ซึ่งมีอยู่วันหนึ่งที่แม่ของเธอไม่อยู่บ้านในขณะที่เธอกำลังนอนหลับอยู่นั้นพ่อเลี้ยงได้เข้ามาใช้กำลังปลุกปล้ำเธอและข่มขู่ไม่ให้เธอนั้นบอกแม่ไม่เช่นนั้นจะฆ่าเธอให้ตายทำให้เด็กกลัวจึงไม่ได้มีการเล่าเรื่องนี้ให้แม่ฟังแต่หลังจากมีครั้งแรกแล้วพ่อเลี้ยงยังคงกระทำการข่มขืนเธอเรื่อยมาในช่วงที่แม่ไม่อยู่บ้านจนในที่สุดเด็กหญิงพบว่าประจำเดือนของตนเอง

ไม่มาจึงได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษาคุณครูในโรงเรียนพร้อมทั้งได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่พ่อเลี้ยงข่มขืนให้กับคุณครูฟังด้วยเมื่อกูได้ยินเช่นนั้นจึงได้พาเด็กหญิงไปอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็กและครอบครัวหลังจากนั้นก็พาไปตรวจร่างกายจึงพบว่าเด็กหญิงกำลังตั้งครรภ์ได้ 4 เดือนจึงได้นำหลักฐานทั้งหมดนั้นไปแจ้งความดำเนินคดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเหตุการณ์ในครั้งนั้น

เกิดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่อย่างไรก็ตามเมื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้วพ่อเลี้ยงเกิดไหวตัวทันจึงได้หลบหนีไปซ่อนตัวและนับตั้งแต่นั้นมาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถจับกุมตัวพ่อเลี้ยงได้เลยจนเจ้าหน้าที่กองปราบปรามได้สืบทราบภายหลังว่าพ่อเลี้ยงที่ข่มขืนเด็กหญิงวัย 11 ขวบนั้น

หนีมากบดานอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่นั่นเองแต่อยู่ที่ตำบลเมืองนะทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังออกไปจากคุณพ่อเลี้ยงคนดังกล่าวซึ่งในที่สุดพ่อเลี้ยงคนดังกล่าวก็ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้กระทำเรื่องดังกล่าวจริงโดยคิดว่าการกระทำของตนเองนั้นจะไม่มีใครรู้เรื่องเพราะว่าได้มีการข่มขู่ลูกเลี้ยงเอาไว้แล้ว

แต่กลับต้องมีคนมารู้เรื่องเพราะว่าเด็กหญิงตั้งครรภ์นั่นเองซึ่งพอเขารู้ว่ามีการไปแจ้งความเขาก็รีบหลบหนีจากการจับกุมทันทีและใช้ชีวิตมาได้หลายปีจนมาถูกจับกุมในครั้งนี้  สำหรับคดีพ่อเลี้ยงข่มขืนลูกนั้นเรามักพบเห็นข่าวแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งแม่ของเด็กควรระมัดระวังให้ดีหากคิดจะมีสามีใหม่ ควรตรวจสอบนิสัยของสามีใหม่ให้ดี อย่าให้เลือกคนไม่ดีเข้ามาในชีวิตแล้วมาทำร้ายลูกของตัวเองได้

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  แทงหวยออนไลน์ยังไง

คุณหมอวินิจฉัยพลาด ทำเด็ก 2 ขวบเสียชีวิต

                    สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อมีคุณแม่ท่านหนึ่งได้ออกมาโพสต์ถึงเรื่องราวที่เธอได้ประสบพบเจอจากการที่เธอได้นำลูกชายวัย 2 ขวบไปรักษาอาการเจ็บป่วยที่โรงพยาบาล  โดยเธอได้เล่าว่าลูกของเธอนั้นมีอาการเป็นไข้ตั้งแต่ในช่วงของวันที่ 19 เดือนตุลาคมปีพศ2563 แล้วซึ่งลูกเธอนั้นมีอาการตัวร้อนและไข้ขึ้นสูง 

ซึ่งในตอนแรกนั้นเธอใช้วิธีการรักษาด้วยการซื้อยาลดไข้มาให้ลูกของตัวเองกินแต่อาการกลับไม่ดีขึ้นจนเช้าของวันที่ 20 เดือนตุลาคมเธอจึงได้พาลูกไปตรวจที่โรงพยาบาลเนื่องจากว่าเธอพบว่าอาการของลูกของเธอนั้นนอกจากจะมีไข้แล้ว  ยังมีการถ่ายเหลวและเมื่อกดไปที่บริเวณช่วงท้องของลูกของเธอนั้นกดลงไปแล้วแข็งมาก

                   หลังจากนั้นเธอจึงได้พาลูกไปรักษาที่โรงพยาบาล 30 บาทที่รูปเธอสังกัดอยู่ซึ่งก็คือโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์  เมื่อแพทย์มีการตรวจอาการเบื้องต้นจึงได้แจ้งกับเธอว่าจะต้องมีการเช็คสภาพร่างกายอย่างละเอียดดังนั้นเธอจึงให้ลูกชายของเธอนั้นตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ด้วยการอุจจาระและปัสสาวะไปตรวจอีกทั้งยังมีการเจาะเลือดไปตรวจอีกด้วยซึ่งคุณหมอได้รับผลตรวจและมีการเช็คตรงบริเวณร่างกายของลูกจากบริเวณท้องพบว่าแข็งคุณหมอก็สันนิษฐานทันทีเลยว่าลูกของเธอนั้นมีอาการลําไส้อักเสบซึ่งวิธีการรักษาของคุณหมอที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์นั้นใช้วิธีการให้น้ำเกลือและให้กินยาลดไข้เพราะไข้ขึ้นสูง 39 องศาดังนั้นลูกของเธอจึงต้องนอนที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เป็นระยะเวลาหนึ่งคืน 

                  แต่รุ่งเช้าอาการของลูกเธอแทนที่จะดีขึ้นกับรู้สึกว่าแย่ลงเพราะลูกของเธอนั้นยังคงถ่ายเหลวและในวันที่ 22 เดือนตุลาคมเฉพาะช่วงเช้าอย่างเดียวลูกของเธอนั้นถ่ายไปถึง 5 ครั้งด้วยกันซึ่งเธอสังเกตว่าอาการของลูกเธอนั้นหลังจากที่ได้กินยาและได้รับน้ำเกลือแล้วไม่ดีขึ้นเธอจึงตัดสินใจที่จะย้ายลูกชายวัย 2 ขวบของเธอไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น

โดยเธอเลือกพาลูกชายของเธอไปรักษาที่โรงพยาบาลเด็กแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ตรงบริเวณแถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  ตอนที่เธอทำเรื่องขอย้ายจากโรงพยาบาลจุฬาไปโรงพยาบาลเด็กนั้นโรงพยาบาลจุฬาไม่อนุญาตให้เธอได้มีการย้ายรูปโดยให้เหตุผลกับเธอว่าหากย้ายตอนนี้ลูกของเธอจะอยู่ในอาการโคม่าเพราะขณะนี้ลูกของเธอนั้นไข้ขึ้นสูงอาจจะช็อคและเสียชีวิตระหว่างเดินทางได้แต่อย่างไรก็ตามด้วยเธอเห็นสภาพของลูกเธอที่อาการทรุดลงกว่าเดิมมากและไม่มีอาการดีขึ้น

                  หลังจากที่แพทย์ที่โรงพยาบาลจุฬาได้ทำการรักษาเธอจึงยืนยันที่จะย้ายลูกของเธอไปโรงพยาบาลเด็กทันที  หลังจากนั้นทางโรงพยาบาลจึงได้มีการส่งตัวลูกชายของเธอไปที่โรงพยาบาลเด็กและเมื่อไปถึงโรงพยาบาลแห่งใหม่คุณหมอก็ได้ทำการส่งตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งและคุณหมอแจ้งว่าลูกชายของเธอจะต้องเข้ารับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนเพราะในขณะนี้ตรวจพบว่าลำไส้ของลูกชายของเธอนั้นอักเสบจนมีหนองออกแล้วและขนาดนี้อยู่ในสภาวะที่ไส้ติ่งแตกหลังจากที่คุณหมอใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดให้กับลูกชายของเธอ

                   ไม่นานลูกชายของเธอก็อาการดีขึ้นซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอนั้นค่อนข้างเป็นกังวลใจมากในเรื่องของการรักษาการตรวจโรคของโรงพยาบาลทั้ง 2 โรงพยาบาลที่มีความแตกต่างกันซึ่งเธอต้องนำเรื่องนี้ออกมาเผยแพร่ให้กับคนในโลกออนไลน์ได้รู้เพื่อที่จะได้ เป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ปกครองที่พาลูกของตนเองไปรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ

ให้มีการตรวจสอบโรงพยาบาลให้ดีว่าคุณหมอให้อยู่ในโรงพยาบาลนั้นมีความสามารถมากแค่ไหนและอยากจะให้เรื่องนี้รู้ไปถึงเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเพื่อที่จะได้มีการปรับปรุงการรักษาคนไข้ของตนเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นมากกว่านี้

 

สนับสนุนโดย    รวมเว็บหวยออนไลน์